วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567
วันตรุษจีน
วันตรุษจีน (Chinese New Year) เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน มีการเฉลิมฉลองกันเป็นเวลา 15 วัน โดยวันแรกเรียกว่า "วันจ่าย" เป็นวันที่คนในครอบครัวออกไปจับจ่ายซื้อของสำหรับไหว้บรรพบุรุษและเฉลิมฉลองปีใหม่ วันรุ่งขึ้นเรียกว่า "วันไหว้" เป็นวันไหว้บรรพบุรุษและเทพเจ้าต่างๆ วันสุดท้ายเรียกว่า "วันเที่ยว" เป็นวันที่คนในครอบครัวไปเยี่ยมญาติมิตรและเฉลิมฉลองปีใหม่กัน
ในช่วง "วันตรุษจีน" จะมีการทำความสะอาดบ้านเรือนผ่านปีใหม่อย่างสะอาดสดใส ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ต่างเต็มไปด้วยผู้คนมาจับจ่ายใช้สอย ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้แก่เด็กๆ ซื้อของขวัญให้แก่ญาติสนิทมิตรสหาย ซื้อบัตรอวยพรในโอกาสมงคล ในตลาดคราคล่ำไปด้วยผู้คน ที่มาซื้อปลา เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ ฯลฯ ทุกคนต่างดูแจ่มใสมีความสุข เด็กๆ สวมเสื้อใหม่ ทานลูกกวาด ขนมหวาน เล่นพลุประทัด อย่างรื่นเริง
ในบทความนี้ เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ วันตรุษจีน 2567 มีรายละเอียดดังนี้
ประเพณีและกิจกรรมของวันตรุษจีน
การไหว้บรรพบุรุษ เป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ชาวจีนจะจัดเตรียมอาหารและเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ เพื่อเซ่นไหว้บรรพบุรุษ
การแจกซองแดง เป็นการมอบเงินขวัญถุงให้กับเด็กๆ เพื่อเป็นสิริมงคล เด็กๆ ที่ได้รับซองแดงจะต้องกล่าวคำขอบคุณผู้ใหญ่ที่มอบซองแดงให้
การกินอาหารมงคล ชาวจีนเชื่อว่าการกินอาหารมงคลจะช่วยให้มีโชคดีตลอดทั้งปี อาหารมงคลที่มักรับประทานในวันตรุษจีน ได้แก่ ปลา หมี่ซั่ว ขนมเข่ง เกี๊ยว เป็นต้น
การประดับบ้านเรือนด้วยสีแดง สีแดงเป็นสีมงคลของชาวจีน ชาวจีนจึงนิยมประดับบ้านเรือนด้วยสีแดงในวันตรุษจีน
การเยี่ยมญาติมิตร ชาวจีนจะใช้เวลาในวันตรุษจีนไปเยี่ยมญาติมิตร เพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ด้วยกัน
https://vt.tiktok.com/ZSFNbUpmT/
https://vt.tiktok.com/ZSFNbfgF2/
วันวาเลนไทน์
"วันนักบุญวาเลนไทน์" แต่เดิมเป็นเพียงวันฉลองนักบุญในศาสนาคริสต์ยุคแรกหนึ่งหรือสองคนชื่อวาเลนตินัส ความหมายโรแมนติกโดยนัยสมัยใหม่นั้นกวีเพิ่มเติมในอีกหลายศตวรรษต่อมาทั้งสิ้น มีการกำหนดวันวาเลนไทน์ขึ้นครั้งแรกโดยสมเด็จพระสันตะปาปาเกลาซิอุสที่ 1 ใน ค.ศ. 496 ก่อนที่สมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 จะให้ตัดออกจากปฏิทินโรมันทั่วไป (General Roman Calendar) ในปี ค.ศ. 1969
วันวาเลนไทน์มาข้องเกี่ยวกับรักแบบโรแมนติกเป็นครั้งแรกในแวดวงสังคมของเจฟฟรีย์ ชอเซอร์ สมัยกลางยุครุ่งโรจน์ (High Middle Ages) เมื่อประเพณีรักเทิดทูน (courtly love) เฟื่องฟู จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 วันวาเลนไทน์ได้วิวัฒนา มาเป็นโอกาสซึ่งคู่รักจะแสดงความรักของพวกเขาแก่กันโดยให้ดอกไม้ ขนมหรือลูกกวาด และส่งการ์ดอวยพรกัน[1][2]ในภายหลังประเพณีการแสดงออกความรักไม่ได้เป็นที่นิยมเพียงแค่ทางฝั่งตะวันตกหากแต่มีการแพร่กระจายความนิยมไปทั่วโลก โดยคนส่วนใหญ่ถือว่าวันดังกล่าวเป็นวันแห่งการแสดงความรักให้กันจนถึงปัจจุบัน โดยบางประเทศมีการฉลองในลักษณะที่คล้ายกันนี้ เช่น ประเทศบราซิลมีการเฉลิมฉลอง "Dia dos Namorados" ในวันที่ 12 มิถุนายน โดยจะมีการมอบของขวัญให้คนที่รัก เช่น ดอกไม้และช็อกโกแลต[3]
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)